รายงานสรุปผลการออกแบบและพัฒนาตราสัญลักษณ์และรูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์
การออกแบบตราสินค้า "Ricy" ผลิตภัณ์ สคลับขัดผิวกายข้าวหอมมะลิ
นางสาว สุรัสวดี สุวะเสน 5511310491กลุ่ม 101 วิชาการออกแบบอัตลักษณ์
เรียนจนจบภาคเรียนที่ 1/2557แล้ว นักศึกษาได้ความรู้และประสบการณ์อะไรบ้าง จงตอบโดยแสดงความคิดเห็นต่อโพสต์นี้ ที่นี่ ในประเด็นดังต่อไปนี้คือ ให้ครบถ้วน
1.ด้านคุณธรรม จริยธรรม
มีความรับผิดชอบมากขึ้น รู้ว่าทำอะไรไปก็จะได้ผลดังที่กระทำไว้
2.ด้านความรู้
มีความรู้หลายๆด้าน
3.ด้านปัญญา
มีความคิดมากขึ้น ติดสิ่งที่เเปลกใหม่
4.ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
รู้จักการทำงานเป็นกลุ่ม
5.ด้านทักษะการคิดวิเคราะห์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
เรียนรู้โปรเเกม ที่ไม่เคยได้เรียนมาก่อน มีทักษะด้สนการทำงานออกเเบบมากขึ้น
6.ด้านทักษะวิชาชีพ
มีทักษะด้สนการทำงานออกเเบบมากขึ้น
7.ดังหลักฐานแสดงคือ
แจ้งชื่อ นางสาว สุรัสวดี สุวะเสน 5511310491
1.เว็บบล็อกสรุปผลการเรียนรู้ส่วนตัว http://artd2307-surassavadee.blogspot.com/
2.ได้สรุปเล่มรายงานผลการออกแบบตามโครงการออกแบบส่วนบุคคลปลายภาคเรียน( Individual Final Design Project) ในรายวิชานี้ โดยได้เผยแพร่ออนไลน์เป็นหนังสือออนไลน์ไว้ที่เว็บไซต์ที่: http://issuu.com/surassavadee/docs/ricy-1
เว็บบลอกแสดงผลการเรียนรู้ ในรายวิชาการออกแบบอัตลักษณ์:ARTD2307 ของ นางสาว สุรัสวดี สุวะเสน
วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ผลการออกแบบและพัฒนาตราสัญลักษณ์และรูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์
ชื่อเเบรนด์ Rict
ผลิตภัณฑ์ สครับขัดผิวกายข้าวหอมมะลิ3สูตร
1.สครับขัดผิวกายข้าวหอมมะลิ สูตรนม
2.สครับขัดผิวกายข้าวหอมมะลิ สูตรมะขาม
3.สครับขัดผิวกายข้าวหอมมะลิ สูตรขมิ้น
ผลิตภัณฑ์ สครับขัดผิวกายข้าวหอมมะลิ3สูตร
1.สครับขัดผิวกายข้าวหอมมะลิ สูตรนม
2.สครับขัดผิวกายข้าวหอมมะลิ สูตรมะขาม
3.สครับขัดผิวกายข้าวหอมมะลิ สูตรขมิ้น
วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ผลการออกแบบอัตลักษณ์
รายงานสรุปผลการออกแบบอัตลักษณ์และพัฒนาตราสัญลักษณ์และรูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์
การออกแบบอัตลักษณ์ สครับขัดผิวกายข้าวหอมมะลิ
โดย นางสาว สุรัสวดี สุวะเสน
รหัส 5511310491กลุ่ม 101
วิชาการออกแบบอัตลักษณ์
ARTD2307 Corporate Identity Design
ชมแบบเต็มได้ที่ : http://issuu.com/surassavadee/docs/ricy-1
การออกแบบอัตลักษณ์ สครับขัดผิวกายข้าวหอมมะลิ
โดย นางสาว สุรัสวดี สุวะเสน
รหัส 5511310491กลุ่ม 101
วิชาการออกแบบอัตลักษณ์
ARTD2307 Corporate Identity Design
ชมแบบเต็มได้ที่ : http://issuu.com/surassavadee/docs/ricy-1
วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2557
ส.2 การสร้างสรรค์สมมติฐาน
![]() |
โลโก้เเบบเดิม |
Concept logo
ข้าวชุมชนคนสะพานหิน
เขาหลัก สุดแดนเขต อำเภอ บ้านไร่ ซึ่งมีลำธารไหลผ่าน แปลงนาสองฝั่ง
1. เขาหลักสุดแดนเขตอำเภอบ้านไร่ ความหมาย สุดเขตรอยต่อของตำบลสะพานหิน
2.ลำธารไหลผ่าน ความหมาย ความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำที่ไหลผ่าน
3.แปลงนาสองฝั่ง ความหมาย ทุ่งท้องนามองแล้วดูสบายดาสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ
4.สะพานหิน ความหมาย สะพานหินที่เก่าแก่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอู่ทอง
5.ช่อชัยพฤกษ์ ความหมาย เป็นไม้มงคล ตามชื่อ หมายถึงต้นไม้แห่งชัยชนะ ใบใช้ประดิษฐ์เป็นพวงมาลัยสวมศีรษะ เพื่อเป็นเกียรติยศยิ่งใหญ่ แก่กวีและนักดนตรี ในสมัยโบราณ สำหรับของไทย ช่อชัยพฤกษ์ประดับเป็นมงคลหลายที่
6.ดวงอาทิตย์ ความหมาย แสดงถึงความเปล่งประกายของทุ่งข้าว
คุณ สวอง สระเสริม ผู้คิดแบบโลโก้
สีของโลโก้ไม่มีความหมายทางจังหวัดบังคับให้มีแค่2สี เนื่องจากงบประมาณมีน้อย
![]() |
โลโก้ออแบบใหม่ |
![]() |
Visual Analysis ถุงข้าว |
1.คำว่า “ข้าวปลอดภัยหอมมะลิแท้100%”
ใช้ฟอนต์ : LilyUPC
2.แถบสีทอง
3.ใบต้นข้าวสีทอง
4.รวงข้าว
5.“ด้วยใจรักสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของผู้บริโภค”ปี2551 ชมชุนคนสะพานหิน จึงรวมกลุ่มผลิตข้าวปลอดภัยและได้รับมาตรฐาน (GAP) ภายใต้การควบคุมและกำกับของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ใช้ฟอนต์ : 2006_iannnnnBKK
6.โลโก้ ข้าวชุมชนคนสะพานหิน
7.ชื่อ ข้าวปลอดภัยหอมมะลิ 100% บริโภคข้าวปลอดภัย บริโภคข้าวชุมชนคนสะพานหิน
ใช้ฟอนต์ : DB Patpong Extended Regular
8.ตราสัญลักษณ์จังหวัดชัยนา
9.ตราสัญลักษณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร
10.ตราสัญลักษณ์ วิสาหกิจชุมชน
11.ภาพแสดงวิธีหุ้งข้าว
ใช้ฟอนต์ : JasmineUPC
12.แสดงสถานที่ผลิตข้าว
ใช้ฟอนต์ : FreesiaUPC
13วันผลิต
ใช้ฟอนต์ : FreesiaUPC
14.น้ำหนักสุทธิ 5 กก.
ใช้ฟอนต์ : LilyUPC
15.ราคา
ใช้ฟอนต์ : FreesiaUPC
ใช้ถุงประเภท : ถุงพลาสติกใส สามารถมองเห็นเมล็ดข้าวได้ เป็นพลาสติกชนิด พอลิเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ (Low Density Polyethylene) สามารถเรียกแบบย่อว่า(LDPE)
ประเภทการพิมพ์ : การพิมพ์กราวัวร์ (Gravure) เป็นการพิมพ์พื้นลึกที่ใช้แม่พิมพ์ที่เป็นร่องลึกสำหรับบริเวณที่เป็นภาพเพื่อเก็บหมึกแล้วไว้ปล่อยลงบนผิวของชิ้นงานพิมพ์คุณภาพของงานพิมพ์ประเภทนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม่พิมพ์แบบนี้มักเป็นลูกกลิ้งทรงกระบอก ทำด้วยโลหะใช้วิธี
กัดผิวทรงกระบอกเป็นหลุมตามบริเวณที่เป็นภาพ จึงทำยากและใช้เวลา อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายสูง จึงเหมาะกับงานยาว ๆงานพิมพ์ประเภทนี้คืองานพิมพ์
ประเภทซองพลาสติกใส่อาหารและขนม และงานพิมพ์บนพลาสติกต่าง ๆ งานพิมพ์ในต่างประเทศบางแห่งมีการพิมพ์แมกกาซีน หนังสือพิมพ์ และงานพิมพ์บนกระดาษที่มีปริมาณพิมพ์สูง
ขนาดถุง : 28x47 cm.

สติกเกอร์ที่ออกแบบ
![]() |
พบผู้ประกอบการที่สวนนก ชัยนาท |
![]() |
พบผู้ประกอบการที่สวนนก ชัยนาท |
ส.1การสืบค้น
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตข้าวคุณภาพ
รหัสทะเบียนวิสาหกิจชุมชนเลขที่ 1-18-07-032/1-0034
ประเภทกิจการ ผลิตข้าวปลอดสารพิษแปรรูปจำหน่าย การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว สมาชิก 33ราย
ชื่อประธานกลุ่ม นายสวอง สระเสริม จดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2551
ประวัติความเป็นมา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตข้าวคุณภาพเกิดจากการรวมตัวของเกษตรกร
ผู้ตระหนักในด้านสุขภาพและพิษตกค้างของสารเคมีในผลผลิตและสิ่งแวดล้อม
หลักคิด ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทย ทั้งนี้เนื่องจากเกษตรกรบางส่วน ไม่กล้ากินข้าวที่ตนเองปลูก เพราะทราบดีว่ามีการใช้สารเคมีเกินความจำเป็นหรือเกษตรกรที่ปลูกข้าวได้ปลอดภัย จากสารพิษตกค้างยังติดขัดในเรื่องโรงสี เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว กลุ่มผู้ผลิตข้าวคุณภาพจึงมุ่งเน้น ปลูกข้าวปลอดภัย และแปรรูปจำหน่ายในราคาย่อมเยาแก่ชุมชน เพื่อลดค่าครองชีพและ เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค เพื่อเพิ่มรายได้และสุขภาพที่ดีของเกษตรกร ผู้ทำแปลง รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น
พื้นที่ ม.1 ตำบลสะพานหิน มีสภาพเป็นที่ราบลุ่มเหมาะแก่การทำนา เกษตรกรได้เรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ในการทำนาอย่างต่อเนื่อง แต่รายได้ได้จากการทำนาก็ไม่แน่นอน พบว่าสาเหตุหลักเนื่องจาก
1.ขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี
2.เมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมีคุณภาพไม่แน่นอนบางครั้ง
มีการปนพันธุ์ของข้าวพันธุ์อื่นๆหรือข้าววัชพืช วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตข้าวคุณภาพจึงได้เลือกพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ105เป็นพันธุ์ข้าวที่ได้จากศูนย์ขยายเมล็ดพันธุ์ข้าว นครสวรรค์ เป็นลักษณะนาปรัง มีลักษณะพิเศษคือมีกลิ่นหอม และเมล็ดอ่อนนุ่ม เมื่อนำมาหุงต้ม สำหรับพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การปลูก ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลางบางพื้นที่

ข้าวขาวดอกมะลิ105
ลักษณะทั่วไป
1.เป็นข้าวเจ้าไวต่อช่วงแสง
2.เป็นข้าวต้นสูงประมาณ140-150ซม
3.อายุเก็บเกี่ยวข้าวจะออกดอกประมาณวันที่20ตุลาคม และสุกแก่เก็บเกี่ยวได้ประมาณวันที่ 20พฤศจิกายนของทุกปี
4.ระยะพัก ตัวของเมล็ดประมาณ8สัปดาห์
5.ขนาดเมล็ดข้าวกล้องยาว7.5มม หนา1.8 มม
6.ลักษณะเมล็ดข้าวเปลือก เมล็ดเรียวยาว ก้นงอน สีฟาง
ข้อดี
1.มีกลิ่นหอม เมล็ดอ่อนนุ่ม เมื่อนำมาหุงต้ม
2.ทนต่อสภาพแล้ง ทนต่อดินเปรี้ยวและดินเค็ม
3.คุณภาพการขัดสีดี เมล็ดข้าวสารใส แข็ง มีท้องไข่น้อย
4. นวดง่าย เนื่องจากเมล็ดหลุดร่วงจากรวงได้ง่าย
5.เป็นที่ต้องการของตลาด ขายได้ราคาดี
ข้อจำกัด
1.ไม่ต้านทานโรคขอบใบแห้ง โรคใบสีส้ม โรคใบจุด
2.ไม่ต้านทานแมลงบั่ว เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
3.ต้นอ่อนล้มง่าย ถ้าปลูกในที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์สูง

ท้องนาที่ปลูกข้าว

ผลผลิต ข้าวคุณภาพ
วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
หมายถึง เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์หรือตราที่ใช้กับสินค้าหรือบริการ ซึ่งเครื่องหมายที่ให้ความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2543 มี 4 ประเภทดังต่อไปนี้
1 เครื่องหมายการค้า (Trade Mark) คือเครื่องหมายที่ใช้เป็นที่หมายเกี่ยวข้องกับสินค้าเพื่อแสดงว่าสินค้าที่ ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น เช่นบรีสมาม่ากระทิงแดงเป็นต้น
2 เครื่องหมายบริการ (Service Mark) คือ เครื่องหมายที่ใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับบริการ เพื่อแสดงว่าบริการที่ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับบริการที่ใช้เครื่องหมาย บริการของบุคคลอื่นเช่นเครื่องหมายของสายการบินธนาคารโรงแรมเป็นต้น
3 เครื่องหมายรับรอง (Certification Mark) คือ เครื่องหมายที่เจ้าของเครื่องหมายรับรองใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับ สินค้าและบริการของบุคคลอื่นเพื่อเป็นการรับรองคุณภาพของสินค้าหรือบริการนั้นเช่นเชลล์ชวนชิมแม่ช้อยนางรำฮาลาล (ฮาลาล) เป็นต้น
4 เครื่องหมายร่วม (มาร์คกลุ่ม) คือ เครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายบริการที่ใช้โดยบริษัทหรือวิสาหกิจในกลุ่ม เดียวกันหรือโดยสมาชิกของสมาคมกลุ่มบุคคลหรือองค์กรอื่นใดของรัฐหรือเอกชนเช่นตราช้างของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด เป็นต้น
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศ ตามพิธีสารกรุงมาดริด (Madrid Protocol)ปัจจุบันผู้ประกอบการค้า ได้ใช้เครื่องหมายการค้าเป็นเครื่องมือนำทางการค้า ทั้งภายในประเทศและการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เจ้าของเครื่องหมายการค้าจึงมีความจำเป็นต้องจดทะเบียนขอรับความคุ้มครองสิทธิในประเทศต่าง ๆ ก่อนส่งสินค้าไปจำหน่าย เพื่อป้องกันปัญหาการละเมิดเครื่องหมายการค้า และมิให้ผู้ใดนำเครื่องหมายการค้าของตนไปจดทะเบียนในต่างประเทศโดยมิได้เป็นเจ้าของ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้มีนโยบายในการส่งเสริมการให้บริการขอรับความคุ้มครองเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศด้วยความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยการศึกษาแนวทางการเข้าเป็นภาคีพิธีสารกรุงมาดริด (Madrid Protocol)
หากประเทศไทย เข้าเป็นภาคีพิธีสารกรุงมาดริด ผู้ประกอบการหรือผู้ส่งออกของไทยก็จะได้รับประโยชน์ที่จะสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อขอรับความคุ้มครองในประเทศต่าง ๆ ได้ หลายประเทศในคราวเดียวกัน โดยยื่นคำขอจดทะเบียนเพียงคำขอเดียว ใช้เพียงภาษาเดียว(อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือสเปน) และเสียค่าธรรมเนียมเพียงครั้งเดียว ซึ่งก็จะทำให้ได้รับความสะดวก รวดเร็วในการยื่นคำขอจดทะเบียน และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกด้วย
ขั้นตอนการจดทะเบียน
การยื่นคำขอ
ให้ยื่นต่อสำนักงานระหว่างประเทศ (International Bureau) ขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก (WIPO) โดยยื่นผ่านสำนักงานทะเบียนต้นกำเนิดของประเทศผู้ขอ ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบและรับรองว่าเครื่องหมายที่ยื่น สินค้าและ/หรือบริการที่ระบุ เหมือนกับคำขอรากฐาน (Basic Application) หรือทะเบียนรากฐาน (Basic Registration)
คำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่จะนำไปยื่นขอจดทะเบียนระหว่างประเทศตามพิธีสารกรุงมาดริดได้นั้น ต้องเป็นคำขอที่มีการยื่นขอจดทะเบียน หรือได้รับการจดทะเบียนไว้แล้วในประเทศต้นกำเนิด
การจดทะเบียน การจดทะเบียนแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ
1. ขั้นตอนระหว่างประเทศ
เมื่อสำนักงานระหว่างประเทศได้รับคำขอจดทะเบียน จะดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้น (Formal Examination) ในเรื่องความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของพิธีสารกรุงมาดริดและกฎข้อบังคับพิธีสารกรุงมาดริด (Common Regulations) การระบุจำพวกและรายการสินค้าและ/หรือบริการ ว่าเป็นไปตาม Nice Classification หรือไม่ รวมทั้งการชำระค่าธรรมเนียม หากมีข้อบกพร่อง สำนักงานระหว่างประเทศจะแจ้งไปยังประเทศที่มีการยื่นคำขอและผู้ยื่นคำขอ ทั้งนี้ ผู้ยื่นคำขอจะต้องแก้ไขภายใน 3 เดือน มิฉะนั้นจะถือว่าละทิ้งคำขอ
2. ขั้นตอนในประเทศ
เมื่อประเทศภาคีที่ผู้ยื่นคำขอประสงค์จะได้รับความคุ้มครองได้รับคำขอแล้ว จะดำเนินการตรวจสอบคำขอดังกล่าวตามขั้นตอนปกติที่ใช้สำหรับการตรวจสอบคำขอที่ยื่นในประเทศ โดยจะตรวจสอบเนื้อหาสาระ (Substantive Examination) โดยตรวจสอบตามกฎหมายภายในของตน เช่น ตรวจสอบความเหมือนคล้าย ลักษณะบ่งเฉพาะหรือลักษณะต้องห้าม เป็นต้น หากมีข้อบกพร่องต้องดำเนินการแก้ไขตามกฎหมายภายในของประเทศนั้น ๆ
หากมีเหตุที่ต้องปฏิเสธการรับจดทะเบียน จะต้องแจ้งให้สำนักงานระหว่างประเทศทราบภายในกำหนด 12 เดือน หรือ 18 เดือน หรือหลังจากนั้น (กรณีมีคำร้องคัดค้าน)มิฉะนั้นจะถือว่าเครื่องหมายดังกล่าวได้รับการจดทะเบียนในประเทศที่ขอจดทะเบียนนั้นแล้ว
วันจดทะเบียน มี 2 กรณี ดังนี้
1) คือวันยื่นคำขอจดทะเบียนต่อสำนักงานทะเบียนต้นกำเนิด หากคำขอดังกล่าวถึงสำนักงานระหว่างประเทศภายใน 2 เดือน
2) หากเกิน 2 เดือน ให้ถือวันที่สำนักงานระหว่างประเทศได้รับคำขอเป็นวันจดทะเบียน
อายุความคุ้มครอง
10 ปี นับตั้งแต่วันรับจดทะเบียน และต่ออายุได้อีกคราวละ 10 ปี การต่ออายุสามารถต่ออายุได้ก่อนวันสิ้นอายุ 6 เดือน หรือหลังสิ้นอายุแล้วภายใน 6 เดือนก็ได้ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มร้อยละ 50 ของค่าธรรมเนียมเบื้องต้น (Basic fee) ทั้งนี้ สามารถต่ออายุเฉพาะบางประเทศ หรือทุกประเทศที่ได้รับความคุ้มครองก็ได้
ค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอจดทะเบียนระหว่างประเทศมี 4 ประเภท คือ
1) Basic fee เป็นค่าธรรมเนียมเบื้องต้นสำหรับการยื่นคำขอจดทะเบียนระหว่างประเทศหนึ่งคำขอ
- เครื่องหมายขาว-ดำ 653 สวิสฟรังค์
- เครื่องหมายที่เป็นสี 903 สวิสฟรังค์
2) Supplementary fee เป็นค่าธรรมเนียมสำหรับจำพวกสินค้าและ/หรือบริการ ที่ยื่นขอจดทะเบียนเกิน 3 จำพวก โดยเสียค่าธรรมเนียมตั้งแต่จำพวกที่ 4 ขึ้นไป จำพวกละ 73 สวิสฟรังค์
3) Complementary fee เป็นค่าธรรมเนียมสำหรับประเทศที่ระบุเพื่อขอจดทะเบียน ประเทศละ 73 สวิสฟรังค์
4) Individual fee เป็นค่าธรรมเนียมเฉพาะประเทศ
คัดลอกเเหล่งที่มา : http://www.ipthailand.go.th
สรุป เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์หรือตราที่ใช้กับสินค้าหรือบริการ ซึ่งเครื่องหมายที่ให้ความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า
ขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของประเทศไทย
การตรวจค้น
1. แนะนำให้ผู้ยื่นดำเนินการตรวจค้นเครื่องหมายที่จะขอจดว่าเหมือนหรือคล้ายเครื่องหมาย ของผู้อืนหรือไม่ 2. ผู้ค้นต้องเสียค่าธรรมเนียมในการตรวจค้น 100 บาท/1 ชั่วโมง
การยื่นขอจดทะเบียน
1. ผู้ยื่นต้องเตรียมเอกสารตามที่กฎหมายกำหนดและกรอกข้อความให้สมบูรณ์ ได้แก่ - คำขอจดทะเบียน (ก. 01) พร้อมสำเนา จำนวน 10 แผ่น - การ์ด (ก. 16) จำนวน 2 แผ่น - หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามีการมอบอำนาจ) ติดอากร 30 บาท ต่อผู้รับมอบอำนาจ 1 คน - สำเนาบัตรประจำตัว (ถ้าผู้ขอเป็นบุคคลธรรมดา) - ต้นฉบับหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ที่นายทะเบียนออกให้ไม่เกิน6เดือน นับจนถึงวันยื่นคำขอ (ถ้าผู้ขอเป็นนิติบุคคล) - ถ้าผู้ขออยู่ต่างประเทศให้โนตารี พับลิครับรองเอกสารด้วย - รูปเครื่องหมายจำนวน 10 รูป 2. ยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียม500 บาท ต่อสินค้า/บริการ 1 อย่าง
การตรวจสอบ
1. ในขั้นแรกเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเบื้องต้น (Preliminary check) คือตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารเท่านั้น (Documentary check) 2. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและนายทะเบียนจะตรวจสอบว่าเครื่องหมายการค้าที่ขอจดทะเบียน มีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ กล่าวคือ - ต้องมีลักษณะบ่งเฉพาะ - ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายและ - ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายของผู้อื่นในชั้นนี้จะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 3 เดือน ต่อ 1 คำขอ 3. ภายหลังตรวจสอบแล้ว เจ้าหน้าที่จะแจ้งผู้ยื่นคำขอทราบผลการตรวจสอบดังต่อไปนี้ ตามแต่กรณี - การรับจดทะเบียน - ปฏิเสธไม่รับจดทะเบียน - ให้แก้ไขคำขอ - แจ้งผู้ยื่นคำขอว่า เครื่องหมายที่ขอจดทะเบียน มีผู้อื่นยื่นขอจดทะเบียนไว้เช่นกัน ขอให้ผู้ยื่น ไปตกลงกันเองก่อน
การแจ้งให้แก้ไขคำขอ
ผู้ขอจดทะเบียนต้องดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ผิด ระบุข้อความไม่ครบถ้วน ไม่ได้ลงลายมือชื่อ ฯลฯ โดยคิดค่าธรรมเนียมคำขอละ 200 บาท
การแจ้งให้ตกลงกันก่อน
1. ถ้าผู้ยื่นคำขอตกลงกันได้ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าใครได้สิทธิในเครื่องหมายการค้านั้นไป เจ้าหน้าที่จะดำเนินการประกาศโฆษณาต่อไป 2. ถ้าผู้ยื่นคำขอไม่สามารถตกลงกันได้คำขอจดทะเบียนที่ยื่นก่อนจะได้รับการจดทะเบียน ตามหลัก ใครยื่นก่อนมีสิทธิดีกว่า (first-to-file)
การแจ้งไม่ปฏิเสธคำขอ
1. เจ้าหน้าที่จะดำเนินการประกาศโฆษณาต่อไป 2. บางกรณีเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอสละสิทธิในคำขอบางส่วนเนื่องจากบางส่วนของ เครื่องหมายเป็นสิ่งที่ใช้กับสามัญในการค้าขายหรือไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ - ถ้าผู้ยื่นคำขอยอมสละสิทธิ ผู้ยื่นคำขอต้องแจ้งนายทะเบียนทราบ - ถ้าผู้ยื่นคำขอไม่เห็นด้วยกับนายทะเบียน ผู้ยื่นคำขออาจดำเนินการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าก็ได้ ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งคำสั่ง โดยชำระค่าธรรมเนียมการอุทธรณ์คำขอฉบับละ 2,000 บาท
การแจ้งปฏิเสธ
1. ถ้าผู้ยื่นคำขอไม่อุทธรณ์คำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ นายทะเบียนก็จะจำหน่ายคำขอนั้น ออกจากสารบบ 2. ถ้าผู้ยื่นคำขอประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการยื่นคำอุทธรณ์ ต่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าภายใน 90 วันนับตั้งแต่วันที่รับหนังสือแจ้งคำสั่ง โดยชำระค่าธรรมเนียมคำขอฉบับละ 2,000 บาท 3. เมื่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้ามีคำวินิจฉัยแล้ว จะแจ้งคำวินิจฉัยให้นายทะเบียน ทราบดังนี้ - ถ้าวินิจฉัยเห็นควรให้จดทะเบียน นายทะเบียนจะดำเนินการประกาศโฆษณาต่อไป - ถ้าวินิจฉัยไม่รับจดทะเบียน นายทะเบียนจะจำหน่ายคำขอจดทะเบียนออกนอกสารบบและคำวินิจฉัย ของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าถือเป็นที่สุด
การประกาศโฆษณา
1. ถ้านายทะเบียนเห็นสมควรรับจดทะเบียน นายทะเบียนมีคำสั่งประกาศโฆษณาคำขอ จดทะเบียนและมีหนังสือแจ้งให้ผู้ขอจดทะเบียนมาชำระค่าธรรมเนียมประกาศโฆษณาคำขอละ 200 บาท ภายใน30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง - ถ้าไม่ชำระค่าธรรมเนียมภายใน 30 วันถือว่าละทิ้งคำขอ - เมื่อชำระค่าธรรมเนียมแล้ว นายทะเบียนจะประกาศโฆษณาคำขอจดทะเบียนและจะรอ การประกาศเอาไว้ 90 วัน - ถ้าไม่มีการคัดค้านการจดทะเบียนเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการจดทะเบียนเครื่องหมายนั้น ต่อไป - ถ้ามีการคัดค้านการจดทะเบียน โดยเหตุหนึ่ง เหตุใดเช่น เครื่องหมายการค้าไม่มีลักษณะ ที่จดทะเบียนได้, เครื่องหมายการค้าไม่ได้เป็นของผู้จดทะเบียน หรือการจดทะเบียน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้คัดค้านต้องยื่นคำคัดค้านต่อเจ้าหน้าที่พร้อมแสดงหลักฐาน และเหตุผล และชำระค่าธรรมเนียมค่าคำคัดค้าน 1,000 บาท 2. เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอทราบว่ามีบุคคล คัดค้านการจดทะเบียนคำขอนั้น - ถ้าผู้ยื่นคำขอไม่ประสงค์จะโต้แย้งการคัดค้านนายทะเบียนจะจำหน่ายคำขอออกจากสารบบ - ถ้าผู้ยื่นคำขอประสงค์จะโต้แย้งการคัดค้านให้ยื่นคำโต้แย้งต่อนายทะเบียนภายใน 90วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาการคัดค้าน 3. นายทะเบียนจะพิจารณาในประเด็นที่คัดค้านนั้น เมื่อมีคำวินิจฉัยแล้ว จะแจ้งไปให้คู่กรณีทราบ 4. คู่กรณีที่เสียประโยชน์อาจอุทธรณ์คำวินิจฉัยของนายทะเบียนได้โดนยื่นคำอุทธรณ์ต่อ คณะกรรมการเครื่องหมายการค้าภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ทราบคำวินิจฉัยของนายทะเบียน โดยชำระค่าธรรมเนียมคำขอฉบับละ2,000 บาท 5. เมื่อคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าได้วินิจฉัยแล้วนายทะเบียนจะแจ้งผลการวินิจฉัยของ คณะกรรมการเครื่องหมายการค้าให้แก่คู่กรณีทราบ 6. ถ้าคู่กรณีฝ่ายที่เสียประโยชน์ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัย ผู้นั้นอาจนำคดีขึ้นฟ้องศาลได้ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ทราบผลคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้า
การจดทะเบียน
1. เครื่องหมายที่มีลักษณะบ่งเฉพาะ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย เมื่อผ่านการตรวจสอบจากนายทะเบียนและได้ประกาศโฆษณาแล้ว และผ่านกระบวนการคัดค้านและอุทธรณ์ จนถึงที่สุด เป็นเครื่องหมายที่สามารถจดทะเบียนได้ นายทะเบียนจะแจ้งไปยังผู้ยื่นคำขอทราบให้ดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือเจ้ง 2. เมื่อผู้ยื่นคำขอชำระค่าธรรมเนียม ผู้ยื่นคำขอจะได้รับหนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนไว้เป็นหลักฐาน โดยชำระค่าธรรมเนียมสินค้าหรือบริการอย่างละ 300 บาท
เอกสาร : หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า หรือ เครื่องหมายบริการ
ส1.การสืบค้น
รายละเอียดของ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ผลิตข้าวคุณภาพ หมู่ 1 ต.สะพานหิน อ.หนองมะโมง จ.ชัยนา
"ชุมชนบ้านสะพานหิน"ภูมิใจ ผลิตข้าวคุณภาพ-ไร้สารเคมี
คอลัมน์ รายงานพิเศษ
เกวลี เกิดน้อย
"ชุมชนบ้านสะพานหิน"ภูมิใจ ผลิตข้าวคุณภาพ-ไร้สารเคมี
คอลัมน์ รายงานพิเศษ
เกวลี เกิดน้อย
ยุคโลกาภิวัตน์มีผลกระทบต่อภาคการเกษตรอย่างมาก โดยเฉพาะความเข้มแข็งในชุมชน ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนบ้านสะพานหิน หมู่ 1 ต.สะพานหิน อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท เริ่มต้นจากศูนย์พันธุ์ข้าวชุมชน บ้านสะพานหิน เมื่อปี พ.ศ.2552 จากเกษตรกรที่ใส่ใจในสุขภาพ ด้วยความตระหนักอันตรายของสารพิษที่เป็นอันตรายต่อตัวเกษตรกรและสารพิษตกค้างในผลผลิตทางการเกษตร ได้รวมกลุ่มจดทะเบียนเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ผลิตข้าวคุณภาพ เพื่อผลิตข้าวที่ปลอดภัยสู่ผู้บริโภค จนมีโรงสีชุมชนของตนเองขึ้น
ในที่สุดปี 2555 ทางกลุ่มได้เริ่มผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อจำหน่ายเอง โดยมุ่งเน้นทำตลาดเจาะกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นหลัก
ในที่สุดปี 2555 ทางกลุ่มได้เริ่มผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อจำหน่ายเอง โดยมุ่งเน้นทำตลาดเจาะกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นหลัก
นายสวอง สระเสริม ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตข้าวคุณภาพ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่ที่ปลูกข้าวนั้นจะซื้อข้าวสารกิน เพราะรู้ว่าไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีการใช้สารเคมีเกินความจำเป็น หรือหากข้าวที่ตนเองปลูกนั้นปลอดภัยก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปสีที่ไหน เพราะหากนำไปสีที่โรงสีขนาดใหญ่ในปริมาณไม่มากข้าวที่ได้มาก็ไม่ใช่ข้าวของตนเอง
แต่เมื่อได้รับการฝึกอบรม ได้เรียนรู้การผลิตข้าวที่ปลอดภัยแล้วชุมชนต้องแปรรูปข้าวเปลือกเป็นข้าวสารไว้บริโภคเอง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตข้าวคุณภาพ ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก จ.ชัยนาท คือ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรกรที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน กิจกรรมเพิ่มศักยภาพพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารปลอดภัย โครงการนี้ทำให้ฝันของชุมชนเป็นจริง ฝันที่จะทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการแปรรูป ฝันที่จะทำให้ ผู้บริโภคข้าวได้บริโภคข้าวที่ปลอดภัย ฝันที่จะทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้กินข้าวที่ตนเองปลูก อีกทั้งได้รับการสนับสนุนโรงเรือนและเครื่องสีข้าว พร้อมบรรจุภัณฑ์ รวมงบประมาณกว่า 590,000 บาท ทำให้ฝันนั้นเป็นจริงขึ้นมาได้
ข้าวเปลือกหอมมะลิจำนวน 1 ตัน ราคา 16,000 บาท เมื่อนำมาแปรรูปเป็นข้าวสารจะได้ข้าวสารจำนวน 555 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 35 บาท เป็นเงิน 19,425 บาท เมื่อนำข้าวเปลือก 1 ตัน แปรรูปเป็นข้าวกล้องจะได้ข้าวกล้องจำนวน 700 กิโลกรัม ขายกิโลกรัมละ 40 บาท เป็นเงิน 28,000 บาท และเมื่อนำมาแปรรูปเป็นข้าวกล้องงอกจะได้ข้าวกล้องงอกจำนวน 700 กิโลกรัม ขายกิโลกรัมละ 80 บาท เป็นเงิน 56,000 บาท
ถือเป็นเส้นทางการเพิ่มมูลค่าผลผลิตที่น่าสนใจในชุมชน รวมทั้งสุขภาพของประชาชนจะดีขึ้น เมื่อผลิตข้าวที่ปลอดภัยและบริโภคข้าวที่ปลอดภัยจากสารพิษปนเปื้อนในข้าวสาร
นายสุพรรน์ จันศรี กำนันตำบลสะพานหิน กล่าวอย่างภูมิใจว่า วันนี้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตข้าวคุณภาพไม่ใช่ของคนในพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านสะพานหินเท่านั้น แต่เป็นของคนทั้งตำบล เพราะมีการประชา สัมพันธ์และคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการโดยผ่านการประชุมของศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลสะพานหิน
ดังนั้น จึงมีแนวทางที่จะเปิดรับสมัครสมาชิกเพิ่มเติมเพื่อระดมทุน แต่การดำเนินงานของศูนย์ข้าวชุมชนบ้านสะพานหินนั้นไม่ต้องการเติบโตแบบก้าวกระโดด ขอเจริญเติบโตอย่างช้าและมั่นคง
ในการนี้นับว่ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตข้าวคุณภาพเริ่มจากความร่วมมือร่วมใจของคนกลุ่มเล็กๆ ร่วมมือกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแบบบูรณาการร่วมกันของส่วนราชการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานเกษตรจังหวัดชัยนาท กรมการข้าว สำนักงานตรวจสอบบัญชีจังหวัดชัยนาท สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานกองทุนและวิจัย (สกว.) สถานีพัฒนาที่ดินชัยนาท สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด และองค์การบริหารส่วนตำบลสะพานหิน
นับเป็นการบูรณาการของหน่วยงานต่างๆ ที่ช่วยประคับประคองศูนย์ข้าวชุมชนบ้านสะพานหินให้เติบโตและเข้มแข็งขึ้น
เเหล่งที่มา: http://www.khaosod.co.th/view_news.phpnewsid=TUROaVoyc3hNREUz
เเหล่งที่มา: http://www.khaosod.co.th/view_news.phpnewsid=TUROaVoyc3hNREUz
วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ความหมายของการ "ออกแบบอัตลักษณ์" "Brand"และ"เครื่องหมายและสัญลักษณ์''หมายถึง
ความหมายของการออกแบบอัตลักษณ์
Corporate Identity Design (CI Design) คือ การออกแบบอัตลักษณ์ขององค์กรหรือแบรนด์สินค้าที่ไม่ได้หมายถึงการสร้างแบรนด์หนึ่งๆ โดยตรงแต่เป็นหน้าต่างสำคัญที่จะกำหนดหน้าตาและทิศทางของแบรนด์นั้นๆ ได้ การออกแบบอัตลักษณ์นี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันไม่ใช่แค่การออกแบบโลโก้ แล้วนำไปประยุกต์ใช้กับเครื่องมือสื่อสารทั้งหมดของแบรนด์ CI Design คือการออกแบบภาพลักษณ์ทั้งหมดของแบรนด์ที่จะทำให้คนภายนอกสัมผัสได้เฉกเช่นเดียวกับที่องค์กรต้องการสื่อออกไปเรียกว่าถ้าพลาดก็อาจทำให้ภาพของแบรนด์บิดเบี้ยวไปเลยก็ได้
สรุป
การสร้างแบรนด์หนึ่งๆ โดยตรงแต่เป็นหน้าต่างสำคัญที่จะกำหนดหน้าตาและทิศทางของแบรนด์นั้นๆ ได้
การสร้างแบรนด์หนึ่งๆ โดยตรงแต่เป็นหน้าต่างสำคัญที่จะกำหนดหน้าตาและทิศทางของแบรนด์นั้นๆ ได้
ตราสินค้า (Brand)
นอกจากตราสัญลักษณ์ (Logo)ของสินค้าแล้ว ตราสินค้าก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีผลต่อการสร้างผลิตภัณฑ์และมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ซึ่งทั้ง 2 อย่างจะมีข้อแตกต่างกัน แต่จะมีข้อส่งเสริมซึ่งกันและกันสำหรับการสนับสนุนให้สินค้าแต่ละตัวนั้นสามารถเข้าไปครองใจของผู้บริโภคได้
ดังนั้น Brand ไม่ใช่แค่ logo ไม่ใช่แค่โฆษณา และไม่ใช่แค่รูปแบบบรรจุภัณฑ์ ความหมายของ Brand จากผู้รู้ทางโฆษณา Mr. Jack Trout กล่าวว่า “ตราสินค้า หรือBrand คือความรู้สึก หรือ ความประทับใจโดยรวมต่อสินค้ายี่ห้อนั้นๆ ที่ถูกสร้างขึ้นในใจของผู้บริโภค ทั้งจากการโฆษณา, ประสบการณ์การใช้สินค้า, ภาพพจน์ขององค์กรและบุคลากรจากสินค้าและบริการ รวมถึง ประสบการณ์ใด ๆ ก็ตามเกี่ยวกับสินค้าและบริการของ Brand นั้น ๆ”
กล่าวโดยรวมได้ว่า Brand เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ (แต่อธิบายได้) ให้ความรู้สึก ความหมาย คุณค่า รวมถึงความสัมพันธ์ที่ดี ที่ผู้บริโภคมีต่อ Brand นั่นเอง และก็เป็นเหตุผลที่คนยอมจ่ายแพงกว่า เพื่อให้ได้ Brand ที่ตัวเองพึงพอใจ (แม้ว่าบางทีอาจจะจ่ายแบบไร้เหตุผลก็ตาม เช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า Brandดังๆ จากเมืองนอก)
เมื่อพอเห็นภาพแล้วว่า Brand เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้แต่ให้ความรู้สึกได้ (Subjective) ดังนั้น Brand คือ ส่วนแบ่งในใจของผู้บริโภคไม่ใช่ ส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) โดยตรง แม้จะไม่ใช่ส่วนแบ่งทางการตลาด แต่เป็นส่วนแบ่งในใจของผู้บริโภค ในวงการโฆษณาจึงเชื่อกันว่าปัจจัยเหล่านี้มักจะมีความสัมพันธ์กัน เช่น ถ้ามีการใช้เงินในโฆษณาประชาสัมพันธ์มากขึ้น ส่วนแบ่งในใจของผู้บริโภคก็เพิ่มมากขึ้น และท้ายที่สุด ส่วนแบ่งของทางการตลาด ก็น่าจะมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
สรุป
สรุป
สัญลักษณ์อันเป็นที่รวมความรู้สึกของผู้บริโภคที่มีต่อตราสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งในแง่ของลักษณะทางกายภาพ ชื่อ บรรจุภัณฑ์ ราคา ความเป็นมา ชื่อเสียง วิถีทาง การสื่อสารของสินค้านั้นทั้งมวล และหมายรวมไปถึงประสบการณ์ที่ผู้บริโภคมีต่อแนวทาง การดำเนินธุรกิจของเจ้าของสินค้านั้นด้วย
คัดลอกมาจากเว็บไซต์ http://blog.eduzones.com/poonpreecha/90653
สัญลักษณ์ หรือ Logo มาจากคำเต็ม Logotype หมายถึง สัญลักษณ์ เครื่องหมาย ตัวแทน หรือสื่ออย่างใดอย่างหนึ่งที่บ่งบอก ประเภท รูปแบบ หรือรูปพรรณสัณฐานของสิ่งที่เป็นเจ้าของ สัญลักษณ์ หรือ Logo นั้นๆ ดุจดั่งเงา จริงๆ แล้วแทบจะไม่ต้องแปลความหมาย หรืออธิบายด้วยซ้ำ กับคำคำนี้เพราะว่า ถ้าได้ยินคำว่า Logo ผู้ที่ฟังก็จะเข้าใจได้เลย ไม่ต้องแปร หรืออธิบาย จะเข้าใจได้ดี ตีความหมาย ขยายความได้มากกว่า และกว้างมากกว่าคำที่ได้อธิบายไว้แต่ต้น เหมือนที่ทุกคนเข้าใจ และลึกซึ้งกับคำว่า “เงิน” พอเอ่ยคำคำนี้ทุกคนจะเข้าใจได้ดี ลึกซึ้ง และรู้ความหมายกับคำว่าเงินคือ อะไร แต่จะให้แปล และตีความนั้นค่อนข้างจะลำบาก เป็นต้น
Logo เปรียบเหมือนหน้าตาของเจ้าของกิจการ และเจ้าของสินค้า ดุจดั่งเงา เช่น นายขาวเป็นคนดำ หน้าตาขี้เหร่ พูดจาเสียงดังไม่เข้าหูใคร ชอบช่วยเหลือเพื่อน กินเก่ง นอนกรนอ้าปาก ฯลฯ ถ้าจะถามว่า นายขาวมีอะไรในตัวที่ทำให้เพื่อนๆ จำได้ บางคนก็จะจำเอาความขี้เหร่ของนายขาว บางคนก็จะจำได้ในน้ำเสียงของเขาที่เป็นคนมีเสียงดังฟังชัด บางคนก็จะประทับใจการมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่น และบางคนก็จะจำเสียงกรนของเขา สิ่งเหล่านั้น คือ Logo ของนายดำที่มีต่อบุคคลต่างๆ เป็น Logo ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาโดยธรรมชาติของนายขาว หรือพ่อแม่ให้มาตามบุญตามกรรมซึ่งถือว่าเป็น Logo โดยกำเนิด
สำหรับสัญลักษณ์ หรือ Logo มาจากความตั้งใจ และได้ผ่านขบวนการทางด้านศิลปะต่างๆ โดยเริ่มตั้งแต่การวางรูปแบบ ความหมาย หน้าตา รูปลักษณ์ มีที่มา ที่ไป และอื่นๆ นั้น เช่น Logo ของสายการบินไทย ธนาคารกรุงเทพฯ ธนาคารกสิกร ธนาคารทหารไทย ฯลฯ ซึ่งจะอธิบายรายละเอียดความเป็นมาในภายหลัง สาเหตุของความจำเป็นที่จะต้องมี สัญลักษณ์ หรือ Logo นั้นเป็นการเน้นดึงเอาจุดเด่นของสิ่งนั้นๆ ออกมานำเสนอ อธิบาย ความหมาย ใคร (Who) อะไร (What) อย่างไร (How) และลึกลงไปถึงเมื่อไหร่ (When) สู่สาธารณชนให้รับรู้ได้ง่ายยิ่งขึ้น
คัดลอกมาจากเว็บไซต์ http://www.yuttapong.com/?p=155
สัญลักษณ์นั้นช่วยในการสื่อสาร อาจจะเป็นรูปภาพการเขียนอักษร การออกเสียง หรือการทำท่าทาง ซึ่งช่วยให้ผู้ส่งสารและผู้รับสารเข้าใจตรงกันแม้จะพูดกันคนละภาษา แต่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของทั้งสองฝ่ายว่า ผู้ส่งสารมีความสามารถใช้สัญลักษณ์ให้สื่อความหมายมากเพียงใด และผู้รับสารมีความเข้าใจในสัญลักษณ์ที่ใช้มากเพียงใด ดังนั้นภาษามือจึงจัดว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งเช่นกัน
สรุป
สัญลักษณ์เป็นเครื่องหมายที่ใช้แทนความหมายแสดงวัตถุ อักษร รูปร่าง สีสัน ให้เข้าใจไปในทางทิศทางเดียวกันและสามารถแทนได้ด้วยสัญลักษณ์ทั้งสิ้น
คัดลอกมาจากเว็บไซต์
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)